วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เรื่องร้ายที่ต้องรู้

                                                                     เรื่องร้ายที่ต้องรู้
เมื่อเอ่ยคำว่า  ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) ผู้หญิงหลาย ๆ คนคงจะรู้จักโรคนี้ดี  แต่ก็คงจะมีอีกหลาย ๆ ยังไม่รู้จัก  ไม่เคยได้ยิน  ฟังชื่อแปลกดีคงจะเป็นโรคที่ดูไม่น่าจะมีพิษสงหรือมีความรุนแรงอะไร  แต่ถ้าใครเป็นโรคนี้แล้วก็คงจะรู้ถึงความร้ายกาจของโรคนี้ดี และสร้างความทรมานให้กับสาว ๆ ที่เป็นโรคนี้ไม่น้อย  ช็อกโกแลตซีสต์  เป็นคำเรียกชื่อโรคที่สูตินรีแพทย์  มักใช้พูดกับคนไข้ที่เป็นโรคนี้ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า  โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)  ซึ่งหมายถึง โรคที่มีภาวะการณ์เจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุ
โพรงมดลูกขึ้นผิดที่  รองศาสตราจารย์      นายแพทย์ วิสันต์   เสรีภาพงศ์  ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา  คณะแพทย์ศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้กล่าวว่า
           ช็อกโกแลตซีสต์  บางคนเรียกว่าถุงน้ำช็อกโกแลต    ที่เรียกอย่างนี้เพราะว่าของเหลวที่อยู่ข้างใน  ซีสต์  (Cyst)   หรือถุงน้ำ เป็นเลือดเก่า        ที่มีสีเหมือนกับช็อกโกแลตข้น ๆ  ซึ่งเกิดจากเลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้องแล้วไปฝังตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ กลายเป็น   เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่  ซึ่งอาจเป็นเพราะร่างกายมีปัจจัยบางอย่างผิดปกติ  ทั้ง ๆที่ควรจะลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนตามปกติ   
    ในผู้หญิงทั่วไปถ้าเป็นกลุ่มที่มีลูกยากอาจพบถึง  50 %  วัยที่พบส่วนใหญ่เป็นวัยเจริญพันธุ์   และพบผู้หญิงที่เป็นโรคนี้มากอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 30 – 40  ปี  ช็อกโกแลตซีสต์ที่พบมักมีขนาด  4 – 5  เซ็นติเมตร  บางทีขนาดใหญ่มากและส่วนใหญ่คนไข้มาพบแพทย์เพราะมีอาการปวดประจำเดือนมาก
         จากเวบไซท์   http://www.dailynews.co.th/article/1490/172534      นายแพทย์  ศรีเชียร  เลิศวิกูล   ภาควิชา สูติศาสตร์ – นรีเวชวิทยา   คณะแพทย์ศาสตร์  โรงพยาบาลรามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล  ได้กล่าวว่า  โดยปกติแล้วเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกจะเจริญเติบโตในโพรงมดลูก  แต่ถ้ามีการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกผิดที่  จะทำให้เกิดอาการผิดปกติ  ที่แบ่งได้  2  ชนิด  คือ           1. ที่พบภายนอกมดลูกเป็นชนิดที่พบได้บ่อย  ส่วนใหญ่มักพบบริเวณอุ้งเชิงกราน  ได้แก่  รังไข่  ท่อนำไข่  เยื่อบุช่องท้อง  รวมถึงอวัยวะใกล้เคียง  เช่น  กระเพาะปัสสาวะ  ลำไส้ใหญ่          2. ที่พบได้ในกล้ามเนื้อมดลูก  เกิดจากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อมดลูก  ทำให้มีอาการปวดประจำเดือน  และตรวจพบว่ามดลูกมีขนาดโตขึ้น  โดยทั่วไปแล้ว  โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่  จะหมายถึง  ชนิดที่พบภายนอกมดลูก
โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
          สำหรับการเกิดโรค ช็อกโกแลตซีสต์ หรือ ที่เรียกกันว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต   นั้นเชื่อกันว่า  เกิดจากการที่เลือดประจำเดือนมีการไหลย้อนกลับเข้าไปในอุ้งเชิงกราน  ผ่านทางท่อนำไข่  ซึ่งโดยปกติแล้วเวลามีประจำเดือน  นอกจากเลือดประจำเดือนจะไหลออกมาทางช่องคลอดแล้ว  จะมีเลือดบางส่วนไหลผ่านท่อนำไข่เข้าไปในอุ้งเชิงกราน  โดยเลือดประจำเดือนนี้จะมีเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่  โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะมีกลไกในการกำจัดเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านี้  แต่ในผู้หญิงบางคนมีความผิดปกติของกลไกในการกำจัดเซลล์เหล่านี้  ทำให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมานั้น  ไปฝังตัวตามจุดต่าง ๆ ในอุ้งเชิงกราน  รวมถึงรังไข่  และเจริญเติบโตจนทำให้เกิดถุงน้ำขึ้น  เวลาที่มีประจำเดือนเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ในถุงน้ำก็จะมีเลือดที่ออกมาเข้าไปอยู่ในถุงน้ำนั้นด้วย  เมื่อเวลาผ่านไป  น้ำซึ่งเป็นส่วนประกอบในถุงนั้นจะถูกดูดซึมกลับ  ทำให้เลือดในถุงมีลักษณะเข้มขึ้น  และเมื่อค้างอยู่นาน ๆ ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลมีลักษณะคล้ายกับช็อกโกแลต  เราจึงเรียกว่า  ถุงน้ำช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกแลตซีสต์  และนั่นคือแต่ละเดือนที่ผ่านไป  ถุงน้ำก็จะมีเลือดเพิ่มขึ้นและขยายขนาดใหญ่ขึ้น แต่จะขยายขนาดเร็วมากน้อยแค่ไหน  ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนนั้น ๆ ว่าจะดูดน้ำกลับได้เร็วแค่ไหน  ถ้าร่างกายดูดน้ำกลับได้เร็วถุงน้ำนั้นก็จะโตขึ้นช้า ๆ
อาการสำคัญที่พบบ่อย ๆ ของโรคช็อกโกแลตซีสต์          เมื่อเริ่มมีอาการปวดประจำเดือน อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น เดิมอาการปวดประจำเดือนจะไม่มากพอทนได้   แต่ต่อมาอาการปวดประจำเดือนจะมากขึ้นเรื่อยจนต้องกินยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรงขึ้น  มีอาการปวดจนต้องหยุดเรียน  หยุดงาน  หรือมีอาการปวดจนรบกวนชีวิตประจำวัน  ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวด  ส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลง บางคนปวดจนต้องไปพบหมอที่โรงพยาบาล บางคนเกิดการแตกของถุงน้ำ  จะทำให้เกิดอาการปวดแบบเฉียบพลันจนต้องเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดแบบฉุกเฉิน   และนอกจากนั้นโรคนี้ยังทำให้เกิดปัญหาการมีบุตรยาก   บางรายเป็นมากจนทำให้เกิดการอุดตันของท่อนำไข่  ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัด              อาการดังกล่าวมานี้น่าจะบ่งชี้ได้ว่าจะเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่  หรือเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์
การรักษาโรคช็อกโกแลตซีสต์          นายแพทย์ ศรีวิเชียร  เลิศวิกูล  ได้กล่าวว่า  การรักษาแพทย์จะคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ของผู้ป่วย  เช่น  อาการของผู้ป่วย  อายุ  ความต้องการมีบุตร  ความรุนแรงของโรค  ซึ่งการรักษาโรคนี้ โดยทั่วไป  มี  3  วิธี  คือ          1. การใช้ยา  มีทั้งการใช้ยาในกลุ่มที่มีฮอร์โมน และ กลุ่มที่ไม่มีฮอร์โมน  เพื่อควบคุมฮอร์โมนในร่างกายไม่ให้อยู่ในระดับสูงเกินไป  ซึ่งจะทำให้มีปะจำเดือนน้อยลง  ลดการไหลย้อนกลับของประจำเดือน          2. การผ่าตัด  มีทั้งวิธีผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง  หรือวิธีผ่าตัดแบบส่องกล้อง  ซึ่งวิธีผ่าตัดแบบส่องกล้องจะมีข้อดีคือ  แผลเล็ก  ปวดแผลน้อย  ใช้เวลานอนรักษาในโรงพยาบาลสั้นกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง  แต่วิธีผ่าตัดแบบส่องกล้อง  มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะจริง ๆ          3. การรักษาร่วม  เป็นการรักษาโดยใช้ยา ร่วมกับการผ่าตัด    ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจของการใช้วิธีการรักษา  แพทย์จะเลือกตามความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย     
ข้อแนะนำเพิ่มเติม   ในกรณีที่เรามีอาการปวดประจำเดือน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการอื่น ๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว  ควรจะต้องรีบไปปรึกษากับสูตินรีแพทย์ที่คลีนิกหรือที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน แต่เนิน ๆ ก่อนที่โรคจะลุกลามกว่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น